YBG ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

YBG ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

Masthed image
Masthed image
Masthed image

ยกระดับการดูแลผู้สูงวัยด้วย YBG สารอาหารช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

หลายคนไม่ทราบว่า กล้ามเนื้อกับระบบภูมิคุ้มกันมีการทำงานร่วมกัน เพราะนอกจากกล้ามเนื้อจะช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหวแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตสารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน 

แต่เมื่ออายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อกลับยิ่งลดลง จึงอาจส่งผลให้ภูมิต้านทานต่ำ หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เมื่อภูมิต้านทานต่ำ อาการหลัก ๆ คือ เกิดการอักเสบได้ง่าย และเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้น การมีกล้ามเนื้อและภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัย การเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน หรือวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันผู้ใหญ่ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เท่านั้น แต่อาจมีส่วนช่วยให้ร่างกายฟื้นจากการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น

และหนึ่งในสารอาหารที่ได้รับความสนใจและผ่านการวิจัยว่ามีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันคือ YBG1

YBG คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน?

YBG คือ สารอาหารประเภทเบต้ากลูแคน ที่มีโครงสร้างโมเลกุล เบต้า 1,3/1,6-กลูแคน ที่มีบทบาทสำคัญโดยตรงในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย1       YBG จะทำงานโดยตรงกับเซลล์ภูมิคุ้มกันหลายชนิด โดยการฝึกฝนและเพิ่มศักยภาพให้เซลล์ภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น 1,2

จากผลการวิจัยทางคลีนิกพบว่า การรับประทาน YBG วันละ 250 มิลลิกรัมสามารถช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ภูมิคุ้มกัน (เช่น ทีเซลล์ และเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดอื่น ๆ) ได้ภายใน 10 วัน2 และหากรับประทาน YBG อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างทั้งจำนวนและการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 3 จากงานวิจัยพบว่าภายใน 4 สัปดาห์ ก็เริ่มเห็นผลในการลดจำนวนวันของการเป็นหวัดอย่างชัดเจน3 เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้รับประทาน YBG รวมถึงช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน4 เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ น้ำมูก คัดจมูก ได้ 65% 

YBG ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุได้อย่างไร?

ด้วยคุณสมบัติในการเสริมภูมิคุ้มกันผู้ใหญ่ YBG จึงมีส่วนช่วยในการดูแลผู้สูงวัย

●      จากการศึกษาพบว่า มีส่วนช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในผู้สูงวัยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ลดความเสี่ยงการเป็นหวัดหรือการติดเชื้อทางเดินหายใจที่จะนำไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่น ๆ, ลดระยะเวลาและความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่4

●      ลดการอักเสบเรื้อรัง – ผู้สูงอายุหลายคนมีภาวะการอักเสบเรื้อรังต่ำ ๆ ในร่างกาย (inflammaging) ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของโรคเรื้อรัง10 YBG ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จึงสามารถช่วยลดการอักเสบของร่างกายได้

●      ฟื้นฟูร่างกายหลังเจ็บป่วยหรือผ่าตัด – เมื่อภูมิคุ้มกันดีขึ้นจาก YBG ร่างกายก็ซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้สูงวัยที่เพิ่งผ่านการเจ็บป่วยหรือผ่าตัดอาจฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหากมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง11

กล้ามเนื้อแข็งแรง ภูมิคุ้มกันดี ด้วย YBG และ HMB

เพราะกล้ามเนื้อและภูมิคุ้มกันทำงานร่วมกัน แนะนำให้เสริมควบคู่กันทั้ง YBG และ HMB โดยการได้รับ YBG อย่างต่อเนื่องจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกันการเสริมด้วย HMB และโปรตีน เพราะ HMB มีส่วนช่วยเสริมสร้างและชะลอการสลายของมวลกล้ามเนื้อ8 เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงจึงช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีตามไปด้วย9

YBG เป็นสารอาหารที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งยุโรป (EFSA) โดยขนาดรับประทานสูงสุดต่อวันคือ 600มก.7

สรุป

แม้ YBG จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสร้างภูมิคุ้มกัน แต่การดูแลผู้สูงวัยให้แข็งแรงนั้นควรมองแบบองค์รวม การรับประทาน อาหารที่มีโภชนาการครบถ้วน การกินวิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน และการมี กล้ามเนื้อที่แข็งแรง ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงไปพร้อม ๆ กัน

ดังนั้น การดูแลร่างกายให้แข็งแรงในผู้สูงอายุ ควรเป็นการดูแลแบบครบทุกด้าน ได้แก่ การรับประทานอาหารหลักให้หลากหลายครบ 5 หมู่ การออกกำลังกายที่เหมาะสมสม่ำเสมอ การพักผ่อนที่เพียงพอ และอาจเสริมด้วยอาหารสูตรครบถ้วนที่มี YBG และ HMB จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยส่งเสริมทั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของมวลกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน โดย HMB มีส่วนช่วยเสริมสร้างและชะลอการสลายของมวลกล้ามเนื้อ ขณะที่ YBG มีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การได้รับสารอาหารที่หลากหลายและเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต

References information

  1. Talbott SM, Talbott JA. J Am Coll Nutr. 2012;31(4):295-300
  2. McFarlin BK et al. Front Physiol. 2017;8:786
  3. Samuelsen AB et al. Mol Nutr Food Res. 2014 Jan;58(1):183-93.
  4. Zhong K, Liu Z, Lu Y, Xu X. Eur J Nutr. 2021 Dec;60(8):4175-4187
  5. Hemarajata, Peera, and James Versalovic. Therap Adv Gastroenterol. 2013;6(1):39-51
  6. Hemilä H, Chalker E. Cochrane Database Syst Rev. 2013;2013 (1):CD000980
  7. Scientific Opinion on the safety of ‘yeast beta-glucans’ as a Novel Food ingredient. Published 10 May 2011
  8. Chew, Samuel Teong Huang, et al. Clinical Nutrition 40.4 (2021): 1879-1892.
  9. Rogeri PS, Gasparini SO, Martins GL, et al. Front Physiol. 2020;11:582258.
  10. NG Thai. "ถอดรหัสกลไกการอักเสบ เมื่อผู้เชี่ยวชาญบอกว่าร่างกายของเราต้องการการอักเสบในระดับที่ไม่มากเกินไป?." National Geographic Thailand, 1 10 ตุลาคม 2024,
  11. โรงพยาบาลพญาไท. "เบต้ากลูแคน...หัวใจ." โรงพยาบาลพญาไท,

 

TH.2025.60008.ENS.1 (v1.0) ©2025Abbott

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง