Dialysis: What You Need To Know

กรดไขมันอีพีเอมีส่วนช่วยลดการอักเสบในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

กรดไขมันอีพีเอมีส่วนช่วยลดการอักเสบในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
กรดไขมันอีพีเอมีส่วนช่วยลดการอักเสบในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
กรดไขมันอีพีเอมีส่วนช่วยลดการอักเสบในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

การอักเสบ (Inflammation) ที่เกิดขึ้นในร่างกายนั้นเป็นปฏิกิริยาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอมที่หลุดรอดเข้ามาสู่ร่างกาย เช่น การติดเชื้อโรค การได้รับสารเคมี การบาดเจ็บเกิดบาดแผล ฯลฯ การอักเสบเหล่านี้มักแสดงออกเป็นอาการต่างๆ เช่น ปวด บวม แดง ฯลฯ1 แต่สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง การอักเสบส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากตัวโรคเอง รวมถึงการรักษาอีกด้วย ไม่ว่าจะจากการได้รับเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี 

การอักเสบรูปแบบที่เกิดขึ้นภายในร่างกายผู้ป่วยเองโดยมีสาเหตุมาจากโรคมะเร็ง เกิดขึ้นจากการที่เซลล์มะเร็งสร้างสารอักเสบขึ้นมาเอง คือ สารไซโตไคน์ (Pro-inflammatory Cytokines) และสารที่ก่อให้เกิดการสลายของกล้ามเนื้อ (Proteolysis-inducing factor -PIF) ซึ่งสารเหล่านี้จะไปกระตุ้นการอักเสบของร่างกายจนเกิดภาวะต่าง ๆ ขึ้นมา เช่น ลดความอยากอาหาร ทำให้กระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สูญเสียกล้ามเนื้อและพลังงานมากขึ้น จนน้ำหนักตัวลดลงและเกิดภาวะ Cancer Cachexia หรือภาวะผอมหนังหุ้มกระดูกจากโรคมะเร็งที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย2

 

 การอักเสบที่เกิดจากโรคมะเร็งจะส่งผลต่อร่างกายของผู้ป่วยมากมาย  เช่น 

  • รู้สึกเบื่ออาหาร  ไม่อยากรับประทานอาหาร เมื่อกินได้น้อยลง จึงได้รับพลังงานจากอาหารลดลง3  
  • กล้ามเนื้อลีบลง จากกระบวนการสลายโปรตีน ซ้ำยังทานอาหารน้อย จึงทำให้ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและมีความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ สมรรถภาพทางกายลดลง ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต3
  • เมตาบอลิซึมของตับเปลี่ยนแปลง จากการที่ตับถูกกระตุ้นให้ผลิตโปรตีนตอบสนองต่อการอักเสบเฉียบพลัน จึงมีผลต่อการขจัดยาของตับ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดพิษจากยารักษามะเร็ง3
  • น้ำหนักตัวลดลง จากการที่มีการใช้พลังงานและสูญเสียกล้ามเนื้อมากขึ้น4

อย่างไรก็ตามมีอาหารหลายชนิดที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และมีผลเปลี่ยนแปลงกระบวนการอักเสบในร่างกาย เช่น สารอาหารกลุ่มโปรตีนที่มีกรดอะมิโนบางชนิด เช่น อาร์จินีน กลูตามีน และน้ำมันปลาโอเมก้า 3 ที่ประกอบด้วยกรดไขมันอีพีเอ (Eicosapentaenoic Acid หรือ EPA)  ซึ่งพบได้ในปลาทะเลน้ำลึก5

โดยมีการศึกษาถึงการใช้น้ำมันปลาที่มีส่วนประกอบของอีพีเอในผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนที่มีน้ำหนักตัวลดลงจำนวน 20 คน เมื่อได้รับน้ำมันปลาที่ให้พลังงาน 600 กิโลแคลอรีและมีกรดไขมันอีพีเอ 2 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ พบว่าการสร้างสารไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ IL-6 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (จาก 16.5 เป็น 13.7 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร) และมีการลดลงของสารที่ก่อให้เกิดการสลายของกล้ามเนื้อ (Proteolysis inducing factor หรือ PIF) ลงมากกว่าครึ่งหนึ่งคือจาก 88% เป็น 40% ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวของผู้ป่วย (เฉลี่ย 1 กิโลกรัม) จะเห็นได้ว่าการได้รับน้ำมันปลาช่วยลดการสร้างสารไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบและสารที่ทำให้เกิดการสลายมวลกล้ามเนื้อ6 น้ำมันปลาที่มีอีพีเอมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) จึงมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น รับประทานได้มากขึ้น สามารถบรรเทาการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและน้ำหนักตัวของผู้ป่วยมะเร็งได้ 6

ทั้งนี้กรดไขมันอีพีเอนั้นร่างกายคนเราไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จะได้รับจากอาหารประเภทปลาทะเลน้ำลึก  และการที่จะได้อีพีเอมากพอจำเป็นต้องรับประทานปลาในปริมาณมากต่อวัน ดังนั้นการรับประทานน้ำมันปลาหรือเสริมด้วยอาหารทางการแพทย์สูตรสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีปริมาณอีพีเอสูงจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

เอกสารอ้างอิง:

1. What is an inflammation? [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://shorturl.asia/XHGBr

2. Onesti JK, et al.Biomed Res Int. 2014;2014:168407.

3. Arends J, et al. Clinical nutrition. 2017;38:1187-1196.

4. Cabal-Manzano R, et al. Br J Cancer. Jun 15 2001;84(12):1599-1601.

5. Role of Immunonutrition in Cancer Patients [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://shorturl.asia/AcFmb

6. Barber MD. et al. Br J Cancer. 1999:81 (1);80-86.

TH.2024.54375.PRO.1 (v1.0) © 2024 Abbott

*ร่วมกับการรับประทานอาหารหลักให้หลากหลายครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

อาหารทางการแพทย์ ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

Related Articles